เติมเต็มร่องลึกด้วย ‘Filling substance’ หรือ ฟิลเลอร์ ช่วยทดแทนคอลลาเจนใต้ชั้นผิวที่หายไปเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น พร้อมคืนความสดใสให้ผิวชุ่มชื้น ปรับรูปหน้า และดูแลผิวพรรณให้ดูเอิบอิ่ม
ในแวดวงความงาม ‘Filling substance’ หรือ ‘Dermal Filler’ หรือ ‘สารเติมเต็ม’ ช่วยเติมเต็มร่องลึกให้ตื้นขึ้น และกระชับใบหน้าให้ดูเปล่งปลั่ง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของการรักษายังมีการใช้สารเติมเต็มในการคงความงามร่วมกับ Botulinum toxin สารเติมเต็ม และ Botulinum toxin จึงเปรียบเหมือนคู่ขวัญในวงการความงาม
เดิมทีสารเติมเต็ม คือ ‘Hyaluronic Acid’ หรือ HA เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ภายในเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย เช่น ผิวหนัง ข้อต่อ และลูกตา โดยมีคุณสมบัติช่วยอุ้มน้ำ เพิ่มปริมาตรผิว ทำให้ผิวอิ่มเอิบ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ปริมาณ HA ภายในร่างกายจะลดจำนวนการผลิตลง แต่ขณะเดียวกันจะมีการเสื่อมสลายไปอย่างรวดเร็วและในปริมาณที่มากขึ้น ทำให้ผิวไม่เต่งตึงเหมือนตอนยังเป็นวัยรุ่นหรือหนุ่มสาว ซึ่งในธรรมชาติ HA อยู่ในรูปของเหลว หรือ ‘Free HA’ ที่ร่างกายสร้างขึ้นแล้วสลายไปภายใน 1-2 วัน โดยเอนไซม์และปฏิกิริยาในร่างกาย จึงมีการคิดค้นวิธีการทำให้ HA อยู่ได้นานขึ้น ในรูปแบบของ ‘Filling substance’
คุณสมบัติที่โดดเด่นของสารเติมเต็ม
ต่อต้านกลไกการแก่ชราของผิว ลดความหย่อนคล้อย พร้อมทั้งช่วยยกกระชับ ปรับแต่งรูปหน้า และเติมเต็มส่วนที่ยุบตัวของผิว อันเนื่องมาจากวัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสารเติมเต็มเหมาะสำหรับการรรักษาริ้วรอยบริเวณมุมปาก หลังมือ เติมเต็มร่องแก้ม ใต้ตา และคางให้ได้รูป
สารเติมเต็มแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ
- สารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler) เป็นชนิดที่สลายได้หมดไม่มีตกค้าง และเป็นสารเติมเต็มชนิดเดียวที่ผ่านการรับรองอย่างถูกต้องในประเทศไทย
- สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent) มีส่วนผสมทั้งชนิดที่สลายได้และไม่สามารถสลายได้ ในประเทศไทยยังไม่ผ่านการรับรอง
- สารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent) เมื่อนำเข้าสู่ร่างกายไม่สามารถสลายออกไปได้ หากจะเอาออกต้องใช้วิธีการผ่าตัด และยังไม่ผ่านการรับรอง
ข้อดีของสารเติมเต็ม
- เจ็บน้อย ไม่ต้องเตรียมตัวเหมือนการผ่าตัด
- หลังรักษาไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผล 20% หลังรักษาในวันแรก และผลลัพธ์จะดีขึ้นเรื่อยๆ ใน 3-6 เดือน
- เนื้อเจลของสารเติมเต็มมีคุณสมบัติช่วยยกกระชับทำให้ใบหน้าดูมีมิติขึ้น
- ไม่มีอันตรายจากสารตกค้าง เพราะสารเติมเต็มสามารถสลายไปได้เองเมื่อเวลาผ่านไป
ข้อดีของสารเติมเต็ม
- เติมเต็มร่องลึก พร้อมแก้ไขปัญหาปรับแต่งรูปหน้าให้เอิบอิ่มเรียบเนียน
- แก้ไขเติมเต็มจุดบกพร่องบริเวณร่องแก้ม ใต้ตา ระหว่างคิ้ว ขมับ ฯลฯ
- เติมเต็มรอยแผลเป็นและรอยหลุมสิว
- เติมเต็มริมฝีปากให้ดูเอิบอิ่มและทาลิปสติกสวยได้รูปยิ่งขึ้น
ข้อควรปฏิบัติหลังการรักษา
- หลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่รักษา 2-3 วัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮล์ 2-3 วัน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและรังสี UV โดยทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 ขึ้นไป
- ไม่ควรอยู่ในที่ร้อนจัด เช่น อบซาวด์หน้า หรืออยู่ในที่เย็นจัด เช่น เล่นสกี
- ช่วง 2 สัปดาห์หลังรักษา การทำหัตถการหรือทรีทเม้นท์ควรขอคำแนะนำจากแพทย์
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- ไม่ควรเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อที่ว่าสารเติมเต็มอยู่ได้นานมากในขณะที่ราคาถูก เพราะมีความเสี่ยงว่าอาจไม่ใช่สารเติมเต็มแท้
- เลือกใช้บริการสถานความงามที่น่าเชื่อถือ และได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจากกระทรวงสาธารณสุข
- เรียกดูฉลากยา เครื่องหมายการค้า และการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) บนผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มก่อนใช้ทุกครั้ง
- การใช้สารเติมเต็มต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกายวิภาคศาสตร์ของใบหน้าเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยไร้กังวล
ประสิทธิภาพที่ดีของสารเติมเต็มในการคงความงามถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญส่วนหนึ่ง แต่การจะทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาต่อคนไข้ได้ผลดีตามต้องการ ต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์ร่วมด้วย ที่จะเปลี่ยนตัวยาให้เป็นความดูดีสู่ผิวพรรณ